• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

3 เหตุผล ทำไมการทำคอนเทนต์ Facebook ถึงเป็นที่นิยม

Started by Joe524, April 25, 2025, 01:39:14 PM

Previous topic - Next topic

Joe524

ปัจจุบัน พฤติกรรมการเสพโซเชียลมีเดีย ของคนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนไป เนื่องจาก การเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าหลายคนเริ่มหันมาช็อปปิงออนไลน์ มากกว่าการซื้อของที่หน้าร้าน ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มพากันขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น พร้อมกับมีแคมเปญประจำเดือน มาดึงดูดใจลูกค้าอยู่เสมอ


อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางช่วงเวลาที่มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเยอะขึ้น แต่ Facebook กลับเป็นแพลตฟอร์ม ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใครหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม Facebook ถึงเป็นแพลตฟอร์มอันดับแรก ๆ ในการทำคอนเทนต์ โดย Something in Common ได้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว ดังนี้



[ol]
  • จำนวนผู้ใช้งานสูง
[/ol]
จากสถิติปี 2024 พบว่า Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานในไทยประมาณ 49 ล้านบัญชี คิดเป็น 68% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานสูงเป็นอันดับต้น ๆ ทำให้การโปรโมตสินค้าบน Facebook ได้ยอด Engagement ดี ทั้งยังช่วยอัปเกรดภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูน่าเชื่อถืออีกด้วย
[ol]
  • ระบบ Audience Targeting ละเอียด
[/ol]
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ Facebook คือ ระบบ Audience Targeting ละเอียดกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพราะทางแพลตฟอร์มมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานอย่างครบถ้วน ทั้งข้อมูลที่บ่งบอกตัวตนของผู้ใช้ เช่น อายุ เพศ ตำแหน่งที่อยู่ และครอบครัว


นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจทั่วไป และพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการกดติดตามเพจ สถานที่ที่ Check-In รวมถึงการพูดคุยกับผู้อื่นบนโลกออนไลน์ ทำให้อัลกอริทึม (Algorithm) ของ Facebook สามารถแสดงเนื้อหาบนหน้าฟีด (Feed) ที่สอดคล้องกับความชื่นชอบของผู้ใช้งานอยู่เสมอ



[ol]
  • เครื่องมือวัดผลที่แม่นยำ
[/ol]
นอกเหนือจากระบบ Audience Targeting ที่ดีแล้ว การทำคอนเทนต์ Facebook ในแต่ละครั้ง เจ้าของแบรนด์สามารถดูผลลัพธ์ได้ว่าลูกค้าสนใจเกี่ยวกับอะไร เพราะทาง Facebook จะมีเครื่องมือในการวัดผลในการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย


ตัวอย่างเช่น ในแต่ละโพสต์มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น กดไลก์ และกดแชร์โพสต์มากน้อยขนาดไหน รวมถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เข้ามามีส่วนร่วมจำนวนเท่าไหร่ โดยเจ้าของแบรนด์สามารถนำผลลัพธ์ที่ได้มา ไปปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้ากับแบรนด์ยิ่งขึ้น 

ขอบคุณข้อมูลจาก thesomethingincommon.com