• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Article#📢 B92B9 ชนิดของฐานรากในงานวิศวกรรม: คุณลักษณะรวมทั้งข้อดีข้อเสีย

Started by Panitsupa, April 25, 2025, 11:30:16 AM

Previous topic - Next topic

Panitsupa

โครงสร้างรองรับ (Foundation) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของส่วนประกอบ เพราะเป็นส่วนที่ช่วยรองรับน้ำหนักรวมทั้งถ่ายโอนแรงทั้งหมดทั้งปวงจากส่วนประกอบข้างบนสู่ชั้นดินหรือชั้นหินด้านล่าง การเลือกประเภทของโครงสร้างรองรับที่เหมาะสมกับลักษณะโครงสร้างแล้วก็ภาวะดินเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ส่วนประกอบมีความมั่นคงยั่งยืนและก็ไม่มีอันตราย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงชนิดของฐานราก คุณสมบัติ ข้อดี และก็ข้อบกพร่องของแต่ละประเภท เพื่อช่วยทำให้รู้เรื่องแล้วก็เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม



⚡🦖🛒ประเภทของโครงสร้างรองรับ

รากฐานสามารถแบ่งออกได้เป็นสองจำพวกหลัก คือ รากฐานตื้น (Shallow Foundation) และโครงสร้างรองรับลึก (Deep Foundation) โดยทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันในแง่ของส่วนประกอบ การออกแบบ รวมทั้งการปรับใช้

1. รากฐานตื้น (Shallow Foundation)
ฐานรากตื้นเป็นโครงสร้างรองรับที่วางอยู่ใกล้กับผิวดิน และเหมาะกับโครงสร้างที่น้ำหนักไม่มากมายหรือสภาพดินมีความแข็งแรงพอเพียง รากฐานชนิดนี้ได้รับความนิยมใช้ในส่วนประกอบทั่วไป อย่างเช่น ที่พัก ตึกขนาดเล็ก รวมทั้งงานก่อสร้างที่ไม่ซับซ้อน

-------------------------------------------------------------
เสนอบริการ Soil Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ เจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Integrity Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website:  เจาะสํารวจดิน
👉 Map: เส้นทาง
-------------------------------------------------------------

แบบอย่างของโครงสร้างรองรับตื้น
-ฐานรากแผ่ (Spread Footing): เป็นรากฐานที่มีการกระจายน้ำหนักขององค์ประกอบในพื้นที่กว้าง เหมาะสำหรับอาคารที่มีคานและก็เสาสร้างบนพื้นผิวที่แข็งแรง
-โครงสร้างรองรับแถบ (Strip Footing): ใช้สำหรับรองรับกำแพงที่มีน้ำหนักเบาหรือองค์ประกอบที่มีลักษณะเป็นแนวยาว
-โครงสร้างรองรับแผ่น (Mat Foundation): ใช้สำหรับโครงสร้างที่ปรารถนากระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ขนาดใหญ่ ดังเช่นว่า อาคารสูงในพื้นที่ดินอ่อน

ข้อดีของโครงสร้างรองรับตื้น
-ใช้งบประมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างรองรับลึก
-ก่อสร้างได้ง่ายและรวดเร็ว
-เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรง

ข้อด้อยของโครงสร้างรองรับตื้น
-ไม่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ
-ไม่อาจจะรองรับองค์ประกอบที่มีน้ำหนักมากได้

2. รากฐานลึก (Deep Foundation)
ฐานรากลึกถูกดีไซน์มาเพื่อกระจายน้ำหนักของโครงสร้างไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกใต้ผิว เหมาะกับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินมีความอ่อนตัวสูง

แบบอย่างของรากฐานลึก
-เสาเข็มตอก (Driven Pile): เป็นเสาเข็มที่ถูกตอกลงดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เหมาะกับโครงสร้างขนาดใหญ่
-เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): เป็นเสาเข็มที่เจาะดินแล้วก็เทคอนกรีตลงไป เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่อาจจะใช้เสาเข็มตอกได้
-ฐานรากเสาเข็มลอย (Floating Foundation): ใช้ในโครงสร้างที่อยากได้กระจายน้ำหนักในพื้นที่ที่มีการทรุด

ข้อดีของรากฐานลึก
-สามารถรองรับน้ำหนักของส่วนประกอบขนาดใหญ่ได้
-เหมาะกับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการทรุดตัว
-เพิ่มความยั่งยืนให้กับองค์ประกอบในสิ่งแวดล้อมที่มีการเสี่ยง

ข้อเสียของโครงสร้างรองรับลึก
-รายจ่ายสูงกว่าฐานรากตื้น
-ใช้เวลาแล้วก็เคล็ดวิธีเฉพาะสำหรับในการก่อสร้าง
-จะต้องอาศัยการสำรวจดินอย่างระมัดระวังเพื่อคุ้มครองปกป้องปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

✨👉✨การเลือกรากฐานที่เหมาะสม

การเลือกชนิดของรากฐานขึ้นอยู่กับหลายสาเหตุ ดังเช่น น้ำหนักของโครงสร้าง ภาวะดิน และสภาพแวดล้อม การสำรวจดิน (Soil Investigation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินรวมทั้งเลือกฐานรากได้อย่างเหมาะควร โดยแนวทางการเลือกมีดังนี้:

การคาดคะเนน้ำหนักองค์ประกอบ:
จะต้องนึกถึงน้ำหนักของโครงสร้างและการใช้งาน เช่น ตึกอยู่อาศัย โรงงาน หรือสะพาน
การวิเคราะห์สภาพดิน:
ทำการเจาะสำรวจดินและทดลองคุณสมบัติของดิน ดังเช่นว่า ความแน่น ความแข็งแรง และก็การซึมผ่านของน้ำ
สภาพแวดล้อม:
พินิจสาเหตุที่อาจส่งผลต่อรากฐาน เช่น แรงสะเทือน อุทกภัย หรือดินถล่ม
ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ:
เลือกโครงสร้างรองรับที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณ

📢🛒🎯แบบอย่างการใช้แรงงานในการก่อสร้าง

บ้านพักอาศัย:
ใช้รากฐานแผ่หรือฐานรากแถบ เนื่องมาจากน้ำหนักของโครงสร้างไม่มากมาย และภาวะดินมีความแข็งแรง
อาคารสูง:
ใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มตอกเพื่อรองรับน้ำหนักขององค์ประกอบและเพิ่มความยั่งยืนและมั่นคง
สะพาน:
ใช้รากฐานเสาเข็มลึกเพื่อกระจัดกระจายน้ำหนักของส่วนประกอบไปยังชั้นดินป้อมปราการอาจ
โรงงานหรือคลังที่เอาไว้สำหรับเก็บสินค้า:
ใช้รากฐานแผ่นหรือเสาเข็มตามรูปแบบของน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งภาวะดิน

🎯👉🎯ข้อสรุป

การเลือกจำพวกของฐานรากที่สมควรถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนแล้วก็ความปลอดภัยให้กับองค์ประกอบ รากฐานตื้นเหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดเล็กแล้วก็ดินที่มีความแข็งแรง ระหว่างที่ฐานรากลึกเหมาะกับโครงสร้างขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินอ่อน การวิเคราะห์ภาวะดินและการออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้แผนการก่อสร้างเสร็จได้อย่างปลอดภัยและจีรังยั่งยืน

การทำความรู้ความเข้าใจส่วนดีส่วนเสียของโครงสร้างรองรับแต่ละประเภทจะช่วยทำให้สามารถตกลงใจเลือกฐานรากได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมกับช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวของโครงสร้างในภายภาคหน้า


Cindy700



dsmol19

ทดสอบความหนาแน่นของดินในสนามราคาเท่าไหร่ครับ