งงเต็กเลย! หยุดรถยนต์หน้าบ้านตัวเอง ถูกมนุษย์ป้าแจ้งจับ เพื่อนบ้านรุมเผยโฉมการกระทำ

[deam205]

สาวมึนหนัก หยุดรถยนต์ หน้าบ้านตัวเองแท้ๆถูกมนุษย์ป้า แจ้งตำรวจจับ 2 ครั้งติด เพื่อนบ้านเปิดเผยความประพฤติอีก ปล่อยหมากัดคนในซอกซอย เรื่องร้องทุกข์ยาวเป็นหางว่าว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค.2566 จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์โต้แย้งกันกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน หลังจากมีปัญหาหัวข้อการหยุดรถยนต์รวมทั้งถูกเพื่อนบ้านนำราวแขวนผ้าตั้งตากแดดหน้าบ้าน จนกระทั่งเกิดการถกเถียงกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่สำรวจเหตุดังกล่าวที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลไทรน้อย อ.ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เจอกับ น.ส.ดอกมะลิ (ขอสงวนชื่อสกุล) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายวีดีโอของเหตุการณ์โต้คารมไว้ พูดว่า ตนกับครอบครัวได้ย้ายมาพักอาศัยที่บ้านพักหลังนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่เกือบติดด้านหลังตรอกต่อไปอีกหลัง โดยบ้านของคู่ปรับที่อยู่ติดกำแพงด้านหลังซอยได้ปลูกต้นไม้สร้างสวนหย่อมขึ้นเต็มพื้นที่บนถนนหนทางหน้าบ้านพักของเขากระทั่งแทบไม่มีวันเข้าออกนางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่า จึงจะต้องอาศัยมาเดินออกผ่านที่หน้าบ้านของตัวเองบ่อยๆ แต่ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วย ด้วยเหตุว่าได้ยินชื่อเสียงของเพื่อนบ้านรายนี้มาพอควรก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่ แม้ว่าจะถูกค่อนแคะแอบต่อว่าต่อขานเสมอๆ แล้วก็บางวันยังมาเดินถ่ายภาพรอบรถยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้านด้วยน.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากตนขับขี่รถยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับเข้ามา ก็พบว่าเพื่อนบ้านรายดังกล่าวมาแล้วข้างต้นได้นำราวตากเสื้อผ้ามาตั้งแขวนผึ่งแดดเต็มหน้าบ้านของตัวเอง ทำให้ตนไม่สามารถนำรถยนต์เข้าหยุดบนถนนหนทางหน้าบ้านได้ตามปกติ ตนก็เลยเดินไปเรียกให้เขามาขยับราวตากผ้าออกไป กลับถูกเพื่อนบ้านรายนี้ต่อว่าต่อขานด่าว่าต่างๆนานา แม้กระนั้นตนก็ข่มใจไม่พากเพียรโต้ตอบอะไรกลับไปนางสาวมัลลิกา พูดว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกับบุตรสาวยืนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น รถยนต์ของเพื่อนบ้านรายนี้ได้ขับเข้ามาสุดตรอกแล้วหยุดกีดขวางบ้านของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ก่อนที่หญิงชราในรถยนต์จะเปิดประตูรถลงมาแล้วต่อว่าพวกตนที่ยืนคุยกันอยู่ว่าไม่มีสำนึกน.ส.ดอกมะลิ กล่าวเพราะ จึงทำให้ลูกสาวตนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทนไม่ได้ ถกเถียงกับหญิงสูงอายุคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวไปว่า คนใดกันแน่ที่ไม่มีสามัญสำนึกยึดพื้นที่ถนนส่วนกลางไปปลูกต้นไม้กระทั่งเข้าออกบ้านตัวเองไม่ได้ต้องมาอาศัยออกที่หน้าบุคคลอื่นยังไม่พอ ยังเอาราวตากเสื้อผ้ามาตั้งขวางหน้าบ้านคนอื่นอีก แล้วชายสูงอายุอีกคนได้เข้ามาว่ากล่าวตน ถนนเป็นของส่วนกลางไม่มีโฉนด คนไหนกันจะทำอะไรก็ได้ หากไม่สบอารมณ์ก็ไปขึ้นโรงขึ้นศาลกัน หลังจากนั้นชายเฒ่าเพื่อนบ้านคนมีชื่อเสียงกล่าวก็ถ่ายรูปรถยนต์ของตัวเองแล้วหายเข้าบ้านไป

น.ส.ดอกมะลิ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆก็มีตำรวจสายตรวจสองคนขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่หน้าบ้านพักตน โดยกล่าวว่ามีคนโทรไปฟ้องร้องว่าบ้านตนหยุดรถยนต์ขวางทางเข้าออกที่พักบุคคลอื่น ตนก็เลยได้ชี้ให้ตำรวจดูว่า รถยนต์ของตนหยุดอยู่บนถนนหนทางหน้าบ้านในเขตพื้นที่ของตน มิได้หยุดล้ำไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เพราะว่าต้นไม้และวัชพืชต่างๆที่อยู่ในกระถางต่างหากที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาที่พื้นที่หน้าบ้านตนแล้วเขาใช้เป็นทางเดินเข้าออกผ่านหน้าบ้านตนแทนนางสาวดอกมะลิ กล่าวอีกว่า ทำให้ตนหยุดรถยนต์ติดไปด้านหน้าเพื่อไม่ให้ท้ายรถยนต์ยื่นไปล้ำหน้าบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ต่อไป เขาก็เลยยัดเยียดข้อหาว่าตนไปแกล้งเขา ทั้งที่เขาสามารถขยับกระถางปลูกต้นไม้ทำทางเข้าออกได้อีกด้านหนึ่งแต่เขาก็ไม่ยอมเปิดช่องนั้นเอง เลือกที่จะเดินผ่านเข้าออกหน้าบ้านตนแทน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมามองเห็นจึงได้เรียกเขาออกมาคุยด้วยเพื่อไกล่เกลี่ยสนทนาแต่ว่าเขาไม่ยินยอม อ้างตัวว่าเป็นทนายเก่าประเดี๋ยวไปจบในชั้นศาล กระทั่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จนใจที่จะชี้แจงแล้วเดินทางกลับไป

น.ส.ดอกมะลิ บอกว่า หลังจากนั้นเพื่อนบ้านทั้งฝ่ายหญิงข้างชายเดินทางออกไปเมืองนอกบ้านได้ไม่นาน ก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหม่ขับเข้ามาที่หน้าบ้านตนอีก โดยพูดว่ามีคนบอกเหตุหยุดรถขวางกั้นเข้าไป ก็เลยต้องมาดู ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกลับไปราวกับที่ได้ชี้แจงกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ชุดแรก ถัดมาตนได้นำรายชื่อของเพื่อนบ้านในซอกซอยที่ได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านหลังนี้ ที่ยังมีความประพฤติเลี้ยงหมาแล้วปล่อยให้สุนัขไปไล่กัดคนในซอกซอยโดยไม่ห้ามนางสาวมัลลิกา กล่าวว่ากล่าว รวมทั้งวัชพืชต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่หน้าบ้านจนกิ่งไประกับสายไฟฟ้า เข้ายื่นร้องทุกข์กับข้างนิติของหมู่บ้านไปแล้ว แม้กระนั้นเรื่องก็เงียบไม่มีคำตอบคำอธิบายหรือวิธีแก้ไขอะไรก็ตามกลับมาให้ตนรู้เลย บุตรสาวตนจึงตกลงใจโพสต์คลิปเพื่อขอความคิดเห็นจากโลกโซเซียลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อนบ้านเจ้าปัญหารวมทั้งหัวหมอรายนี้

ต่อมาข้าราชการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ได้ลงพื้นจุดเกิดเหตุเพื่อวิเคราะห์ ก็เลยพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีเรื่องถูกร้องทุกข์เข้ามาแล้วบ่อยครั้ง ทั้งความประพฤติที่ยึดพื้นที่บนถนนหนทางส่วนกลางเป็นพื้นที่ส่วนตัว เรื่องเลี้ยงสุนัขที่ปล่อยให้หลุดไปไล่กัดคนอื่นๆด้วย ซึ่งเรื่องนี้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อยมิได้นอนใจ เนื่องจากว่าติดในเรื่องกฎหมายที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเป็นของข้างนิติบุคคลของหมู่บ้านที่ปกครองดูแลกันเองอยู่ ไม่ได้ยกพื้นที่ให้ทางเทศบาล หรือ อบต.เป็นผู้ดูแลศูนย์ดำรงธรรมจะได้เร่งรัดให้ข้างนิติบุคคลของหมู่บ้านที่นี้เร่งบังคับใช้กฎของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดถัดไปกับเจ้าของบ้านรายนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งร้องเรียนกันจนถึงกลายเป็นเหตุแย่ลงกว่าเดิมถัดไป

เพื่อนบ้าน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12862/