• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

สพฐ. ย้ำ หนังสือเรียนไข่ต้ม อยากสื่อ ความอนาถา

Started by Jenny937, April 26, 2023, 10:06:16 PM

Previous topic - Next topic

Jenny937


สพฐ. ย้ำ แบบเรียนไข่ต้ม ปรารถนาสื่อ ความจน ไม่ว่าจะกินอะไร ก็สุขสบายได้ ยันพร้อมยอมรับฟังทุกความเห็น ชี้ปรับแต่งทุก 10 ปี

วันที่ 24 เม.ย.2566 นายอัมพร พิทุ่งนาสะ เลขาธิการคณะกรรมการการเล่าเรียนพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีโลกอินเตอร์เน็ตวิจารณ์หนังสือเรียนหนังสือภาษาไทยพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีเนื้อหาว่า รับประทานไข่ต้มครึ่งซีก เหยาะน้ำปลา หรือข้าวไม่คลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือเป็นสุข ถือว่าเป็นการพอเพียง เห็นค่าของชีวิตนั้น ว่า การจัดการเรียนรู้วิชาต่างๆจะมีแผนการจัดการศึกษาอยู่ ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะกำหนดจุดประสงค์อยู่ว่าต้องการสอนอะไรให้กับนักเรียนบ้าง ซึ่งการจัดการศึกษา จะมีสื่อประกอบการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนมีการทำความเข้าใจ ขึ้นกับอาจารย์ว่าจะนำซีเอไอไหน มาสอนเด็กให้เด็กกำเนิดวิชาความรู้

โดย หนังสือเรียนภาษาพาที ที่เป็นเรื่องนั้น เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่ให้ครูใช้ประกอบการสอน เพื่อให้เด็กนำภาษาไปใช้แสดงอารมณ์ความรู้สึก ใคร่ครวญ หรือเห็นค่าของความสุขในชีวิตผ่านวรรณกรรมแค่นั้น คนเขียนจึงระบุนักแสดงสมมติขึ้น โดยมีตัวละครที่มาจากครอบครัวรวย แม้กระนั้นใส่ความสุขไม่เจอ รวมทั้งมีตัวละครที่เป็นกำพร้า แต่ว่าสามารถสุขสบายสำหรับการดำรงชีวิตด้วยการแบ่งปันกัน

ซึ่งในเรื่องของการกินนั้น เรื่องราวมิได้สื่อเรื่องโภชนาการ แต่อยากได้สื่อว่าความอดอยาก ไม่ว่าจะกินอะไร อยู่ตรงไหน ก็สามารถสุขสบายได้ เมื่อผู้ที่อยู่ในครอบครัวร่ำรวยมาเห็น จึงรู้เรื่องว่าความสุขในชีวิตไม่ได้อยู่ที่สถานที่กำเนิด หรือขึ้นกับสถานที่อยู่ แต่อยู่ที่ความรู้ความเข้าใจรวมทั้งเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน

"บทเรียนดังกล่าว ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อตอบปัญหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความสุขของชีวิต แน่ๆว่าสำนักงานคณะกรรมการการเรียนเบื้องต้น (สพฐ.) ไม่ทิ้งหลักโภชนาการ โดยได้กำหนดการเรียนการสอนหัวข้อนี้ไว้ภายในหมวดวิชาสุขศึกษา อีกทั้ง สพฐ.ได้ให้ความเอาใจใส่กับโภชนาการของเด็กอย่างยิ่ง เห็นได้จากการมีระบบ Thai School Lunch ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้สถานศึกษาสามารถจัดอาหารมื้อเที่ยงที่มีคุณภาพให้แก่นักเรียน

ด้วยเหตุดังกล่าว บทเรียนดังที่กล่าวมาแล้ว เป็นการเปรียบให้เด็กเกิดขั้นตอนการคิด รวมทั้งได้มีความเห็นว่าความสบายที่จริงจริงอยู่ที่ไหน ดังนี้ ไม่ต้องการที่จะอยากอ้างอิงผู้ใดกัน แต่ว่าคิดว่าการบ้านการเมืองเดี๋ยวนี้ อยู่ระหว่างวิธีขายความคิด วิธีขายแนวนโยบาย ด้วยเหตุดังกล่าว ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์ สพฐ.ในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็พร้อมที่จะฟังทุกความนึกคิด ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์จะยอมรับฟังแล้วก็ไปปรับใช้" นายอัมพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามคำถามว่า คิดว่าดราม่าที่เกิดขึ้นขยายไปไกลหรือเปล่า นายอัมพร พูดว่า ไม่วิตกกังวลว่าจะมีดราม่า เพราะ สพฐ.อยู่ภาคการศึกษา ยินดีที่จะฟังทุกข้อคิดเห็น เพราะว่ามองว่าทุกความคิดเป็นประโยชน์ ซึ่งตนมีความคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณสำหรับเพื่อการพินิจพิจารณา แต่ การจัดทำหนังสือหนึ่งเล่ม สพฐ.ไม่ได้จัดทำเพียงผู้เดียว จำเป็นต้องผ่านแนวทางการ ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการทำ รวมทั้งผ่านการตรวจสอบจากนักวิชาการอีกหลายๆคนจนกระทั่งเห็นเหมือนกันว่าหนังสือที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแล้ว ซึ่งตนรู้ดี เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์เปลี่ยนไป สพฐ.บากบั่นจะทำหนังสือให้ดีขึ้น นำสมัยเยอะขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนังสือภาษาพาทีมีประเด็นดราม่าตั้งแต่ปี 2563 แล้วปีนี้กำเนิดดราม่าขึ้นอีก จะมีการแก้ไขให้ล้ำสมัยหรือไม่ นายอัมพร กล่าวว่า สพฐ.มีการปรับแก้ตำราเรียนทุกๆ10 ปี เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว รวมทั้งปัจจุบันนี้ สพฐ.ให้โอกาสให้สถานที่พิมพ์เสนอขอปรับแก้สื่อการสอนของตนเองได้ ซึ่งสื่อที่ผลิตใหม่นำเสนอใหม่ถ้ามีหลักสูตรใหม่เกิดขึ้นมา หลักสูตรเก่าก็จำต้องไม่มีการใช้สอนอยู่แล้ว
แบบเรียนไข่ต้ม
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13833/